ออกตัวไว้ก่อนเลยว่า...ปกติเขียนรีวิวสถานที่เที่ยวไม่บ่อยครั้งนัก...
(ถ้าค้นดูในบล๊อคจะเห็นว่าเขียนแค่ไม่กี่ที่ แต่ยาวโคตร)
จะเขียนก็ต่อเมื่อเกิดหรือมีความประทับใจในสถานที่นั้นจริงๆ ถึงจะเขียนเล่าออกมาได้ เพราะ เราค่อนข้างมีจรรยาบรรณพอสมควรกับผู้อ่าน (ใครเค้าอ่านที่แกเขียนวะ) ครั้งนี้ได้มาเยือน Thames Valley Khao Yai ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูหนาวพอดี
การเขียนบล๊อคคราวนี้เริ่มจากการที่ผู้เขียนว่างและอยากจะเดินทาง(ใกล้ๆ)ประหยัดงบประมาณ และ ตั้งโจทย์เอาไว้ว่าจะต้องถ่ายรูปออกมาสวย อืม......(ฉันว่ามันอยู่ที่ฝีมือคนนะแก) ซึ่งสถานที่ๆอยากไปก็มีไม่น้อย อันที่จริงตั้งใจจะไปเกาหลีเดือนธันวานี้ เป็นช่วงที่โคตรหนาวของที่นั่น แต่ไปๆมาๆ ทนที่บ้านไม่ไหว ขับรถหนีออกมาเลย (ก็ไม่ขนาดนั้น) เอาเป็นว่ามาเที่ยวอังกฤษกันเถอะ ด้วยระยะทาง ประมาณ 250 กิโลเมตร จาก กรุงเทพ.......
![]() |
นี่คือหน้าตาของ Front หรือ Lobby ของที่นี่ ขอลงเป็นกลางคืนแล้วกัน เพราะชอบตอนที่ไฟมันส่อง Hedge Maze (ไอ้พุ่มไม้ที่ดัดเป็นทางเขาวงกตนั่นน่ะ) เหมือนผมกำลังจะโดดเข้าโลกของMaze Runner ยังไงยังงั้น.... |
สำหรับคนที่ตั้งใจจะอ่านจริงๆ ขอโทษไว้ตรงนี้เลยว่าบางรูปถ่ายด้วยกล้องมือถือ Xperia ง่อยๆที่ฝาครอบกระจกเลนส์เป็นรอย(เยอะสรัส)อาจจะไม่สวยเท่าที่ควร
เมื่อ Check In เสร็จเรียบร้อย เดี๋ยวๆเร็วไปหรือเปล่ายังไม่บอกเลยว่าอยู่แถวไหนอะไรยังไง เอาง่ายๆ ถ้าคุณมา ปาลิโอได้ ก็สามารถมาที่นี่ได้ เพราะอยู่ในละแวกเดียวกัน ซึ่งมีโรงแรม รีสอร์ทตั้งอยู่ประมาณ 389 แห่ง (โม้ คือแค่จะบอกว่าโคตรเยอะ แถวนั้นซอยนึงป้ายประมาณ 10 กว่าที่ นึกออกมั้ยเวลาขับรถผ่านนี่ต้องอ่านเร็วกว่ารถวิ่งอะ จะจอดชลอก็ยากถนนบนเขามีเลนเดียว) ซึ่งเอาเป็นว่ามันอยู่ฝั่งตรงข้ามปาลิโอ ไม่ไกลนัก .....
![]() |
เมื่อเช็คอิน เรียบร้อย เราก็สามารถเข้าสู่ที่นี่ได้ ประตูนี้เปรียบเสมือนทางเข้าหมู่บ้านเล็กๆในทางตอนใต้ของอังกฤษ |
ที่นี่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เรียกว่าไม่ถึง 8-9 เดือนเลยล่ะ ไม่ถึงปีนั่นแหละ เอ้อ พอแล้ว เอาเป็นว่าการตกแต่งเมื่อเข้ามาถึงนั้น เรียกรอยยิ้มได้เลย เปล่ามันไม่ได้ตลก แต่เพราะว่ามันสวยมากจนต้องเผลอยิ้มออกมา
เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้ว จะพบกับบรรยากาศที่สร้างเลียนแบบมาจากอังกฤษ ทั้งต้นไม้ ดอกไม้ ของที่นี่ ให้บรรยากาศเหมือนต่างประเทศเด๊ะ!! ไม่ได้โกหก ไม่เชื่อลองดูรูปก็แล้วกัน...........
![]() |
ต้นนี้สงสัยมากว่าต้นอะไร จนต้องถาม Gardener ที่อยู่แถวนั้น จึงได้คำตอบว่าเค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เอ้า! รู้แค่ว่ามาจากอินเดีย |
จริงๆการที่มีน้ำใหลผ่านที่พักแบบนี้มันให้อารมณ์พักผ่อนดีจริงๆนะ เสียงน้ำใหล กับ สวนดอกไม้นานาพันธ์ที่ดูแลดีมากจริงๆ นี่ยังไม่นับเรือน กาแฟและชาที่เปิดให้บริการช่วง tea time (10 โมงครึ่ง เป็นต้นไป) คิดแล้วมันฟินจริงๆ ก่อนจะไปไกลกว่านี้ ขอเข้าห้องพักก่อนแล้วกันครับ
![]() |
ห้องพักที่นี่ ที่ผมเลือกเป็นแบบ Deluxe Pond ราคาประมาณ 6,000 บาท ซึ่งถ้ามาวันธรรมดาจะแค่ประมาณ 5,000 บาท |
![]() |
ก่อนอื่นก็ชงชาแลย ทุกอย่างที่นี่เรียบง่าย แต่ดูมีศิลปะนะ แค่วางหุ่น puppet เท่ๆสักตัวก็เก๋แล้วอะ |
![]() |
ในห้องมีพู่กัน ดินสอ ไว้ให้วาดภาพด้วย ถ้ามีอารมณ์ติสก็จัดเลย |
![]() |
มี Smart TV ด้วยนะ เอ้อ....แต่ผมไม่ค่อยได้เปิดใช้เท่าไหร่ มาพักผ่อนไม่ค่อยชอบดูทีวี |
![]() |
ขนมพร้อม ชาพร้อม ก็โดดลงเลยจ้า **คำเตือน** Deluxe Pond นี่ใช้เวลาเปิดน้ำจนเต็มบ่อประมาณ 2 ชั่วโมงจ้า ต้องเผื่อเวลานะจ้า พนักงานยิ้มหวานตอนอธิบายห้องให้ผมฟัง ลืมพูดถึงเรื่องการบริการที่นี่เลย |
กลับเข้าเรื่องกาแฟสักนิด ยังอธิบายไม่หมด...
ไม่รู้ดูได้ไหม ผมถ่ายวีดีโอไว้บน Instagram
![]() |
เนี่ยที่ผมถืออยู่เนี่ย คือต้นขั้วกาแฟ ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่มันคือกาแฟสด สำเร็จรูป ซึ่งเราต้องใส่มันไปทั้งอันแบบนี้เลย รูปร่างเหมือนปีโป้ |
![]() |
หน้าตาของกาแฟสดๆที่เพิ่งออกมาจากเครื่องครับ หอม อร่อย เหมือนสั่งในร้านบนห้างแก้วละ 100 กว่าบาท |
มาดูมุมอื่นๆของห้องกันบ้าง ห้องนี้มีจุดเด่นที่ผมชอบอีกอย่างคือที่นั่งจิบชา/กาแฟ เป็นมุมเล็กๆในห้องที่เก๋ดี ผมว่านะ นั่งได้สองคนและมีโต๊ะเล็กๆไว้สำหรับวางถ้วยกาแฟ น่ารักมากๆ
![]() |
ชอบนะ ไอเดียนี้น่าเอามาทำที่บ้านบ้าง กับการเจาะผนังแล้วเอาโคมไฟวาง |
![]() |
มุมกว้างๆของห้องครับ |
ผมนั่งๆนอนๆจนค่ำ ตอนนี้ท้องผมหิวแล้วครับ ตอนแรกว่าจะไม่ทานที่นี่ แต่สุดท้ายก็ลงเอย...ร้านอาหารของที่นี่ใหญ่ดีครับ หมายถึงนั่งสบาย มีโต๊ะเยอะ บรรยากาศใช้ได้ แต่งแบบอังกฤษจ๋าเลยแหละทั้งรูปภาพพาสเทล ผนังขาวๆ กับตู้โชว์สีขาวที่เต็มไปด้วยหนังสือ เชิงเทียนสีขาว และทุกอย่างสีขาวที่แม่งจะหาได้
![]() |
ป้ายหน้าร้านครับ |
![]() |
โต๊ะอาหาร และ โซฟานิ่มๆ จัดวางได้อย่างอบอุ่นแบบ English Style |
มาที่อาหารกันบ้าง หลายเมนูมากๆ (ไม่ได้ถ่ายมา แต่สั่งเยอะจนบริกรหลายคนตะลึงงัน ว่าจะกินหมดหลอเพ่) เมนูนั้นก็มีอาหารผู้ดีไสตล์อังกฤษ ยัน อาหารอเมริกันชน และรวมถึงอาหารไทยด้วย (จะอยู่หน้าหลังๆเลย).....ผู้เขียนเองได้สั่ง ดังนี้
![]() |
ไก่กรอบ แกงเขียวหวาน ไม่รู้เป็นอะไร นี่เป็นเมนูที่ KFC ควรเอากลับมาทำมากที่สุด และเป็นเมนูโปรดตลอดกาลของผม |
![]() |
ซีซาร์สลัด แบบ อังกฤษ (100% อีกแล้วครับท่าน) |
เดี๋ยวมาเขียนต่อ ลืมไปแล้วว่าสั่งอะไรไปบ้าง เมาอังกฤษ นี่พูดเลย......
จบตอนที่ 1 แล้ว อยากขอโทษนิดนึงตรงที่กลับไปอ่านแล้วดูไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่
เพราะว่าอารมณ์เหมือนอยากเล่าอะไรก็เล่า นึกอะไรได้ก็ใส่เลย ไม่ว่ากันนะ
แต่ ยังไม่จบ เดี๋ยวเจอกันใหม่ตอนที่ 2 ครับ ...
จบตอนที่ 1 แล้ว อยากขอโทษนิดนึงตรงที่กลับไปอ่านแล้วดูไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่
เพราะว่าอารมณ์เหมือนอยากเล่าอะไรก็เล่า นึกอะไรได้ก็ใส่เลย ไม่ว่ากันนะ
แต่ ยังไม่จบ เดี๋ยวเจอกันใหม่ตอนที่ 2 ครับ ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น