นาย ปัถย์ อินทรทูต (แบงค์)

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

[Resort Review] ประทับใจแรกกับตลาดจั๊กจั่น Cicada มาร์เก๊ต [FIRST IMPRESSION] ตอนต่อ ชมวิว แช่อ่างจากุซซี่ ให้ชุ่มปอด @หัวหิน (ตอนที่ 3)

ถ้าพูดถึงตลาดตอนกลางคืน ที่หัวหิน

สถานที่ยอดฮิตติดอันดับของนักท่องเที่ยว

ต้องมีชื่อของ ชิเคด้า (Cicada Market) อย่างแน่นอน

ทำไมน่ะหรือครับ เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวจ้าาา :)


หลังจากได้นอนเต็มอิ่มหลังแช่จากุซซี่ เราก็เดินทางกันต่อเพื่อเดินทางไปยังตลาดชิเคด้าที่เค้าว่ากันว่า
 สวย บรรยากาศดี และของขายแปลกๆมากมาย

ตลาดชิเคด้ามีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ตลาดจั๊กจั่น" ตัวผู้เขียนเอง
ก็เพิ่งจะทราบเมื่อได้ไป ว่าเพราะอะไร
ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะมีจั๊กจั่นเยอะแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะ

โคมไฟที่ผูกติดกับต้นไม้ไว้มากมาย บริเวณสวน และ ตลาด

ที่นี่ดูไม่เหมือนตลาดสักเท่าไร เหมือน สวนที่มีตลาดอยู่ข้างๆ มีเวทีการแสดง มีผู้คนมาทานอาหารค่ำ และ มีร้านอาหารเรียงราย เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เหมือนกับตลาดอื่นๆที่เคยเห็นในไทย 

หน้าทางเข้าของตลาดครับ สังเกตได้ว่า
มีโคมไฟตามต้นไม้แขวนอยู่เรืองๆด้านหลังมากมาย

นี่คือร้านที่น่าจะ ขายดีที่สุดใน zone ของร้านอาหารที่นี่ครับ
ร้านข้าวผัด มีข้าวผัด 3 แบบ
ข้าวผัดกุ้งแม่น้ำ
ข้าวผัดปู
ข้าวผัดทะเล

จัดข้าวผัดปูมา 1 จาน ในปริมาณที่สามารถทานได้ 2 คนเลยครับ ในราคา 80 บาท

ขนมปังหน้าหมู ที่คุณป้าทอดสดๆเลย รอ 3 นาที
ราคา 65 บาท น้ำจิ้มหวานไปนิดครับ แต่อร่อยใช้ได้เลย

สิ่งที่ผมชอบใจอีกอย่างใน Zone อาหารของชิเคด้า คือ สังเกตได้ว่าของทานสะอาดมาก และอย่างน้ำจิ้มหมูสะเตีะ น้ำจิ้มขนมปังหน้าหมูก็ยังใช้กระทงเป็นภาชนะ ซึ่งสมัยนี้หายากนะครับ 

ที่จะมีใส่ให้กินกันแบบนี้

จานนี้หน้าตาดูดี แต่ไม่ประทับใจครับ กุ้งน้อย แป้งเยอะไป

นี่ก็อร่อย >___< หมูสะเต๊ะ 65 บาทครับ สำหรับ 1 จาน 1 ชุด
โดยรวมแล้วที่นี่ราคาอาหาร ไม่ทำคุณล้มละลายแน่นอน 
ชิวๆ กับหลากหลายเมนูในราคาที่ไม่แพงเกินไป
อาหารมีตั้งแต่ เสต็ก สปาเก๊ตตี้ อาหารทะเล ข้าวผัดปู
 กุ้ง ทะเล บาร์บีคิว ทะเลเผา ราดหน้า หมูปิ้ง ยันไปถึง ต้กป๊กกี (อาหารเกาหลี) เบียร์สดก็มีขายครับ แก้วละ 55 บาท ถ้าจำไม่ผิด
 น้ำเปล่าขวดละ 10 บาท แพงกว่า 7-11 ไป 3 บาท 
ไม่แพงเลยครับ ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม 

ร้านรวงที่นี่ก็มีอะไรให้ดูเล่นแก้เซ็งเยอะครับ
เหมาะมากกับการฆ่าเวลายามค่ำคืน
ขอบคุณภาพจาก panoramio.com



ของแปลกๆแบบโคมไฟทำมือ สบู่ทำมือ

 เสื้อสวยๆ ของตกแต่งบ้านเยอะครับ

ผมก็ได้โคมไฟ Homemade มา 1 อัน
แฟนผมซื้อให้ ขอบคุณนะคับแฟน :)
ส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นของที่มีไอเดียครับ ผมเจออะไรแปลกๆเยอะมาก อย่างการ์ดที่กางออกเป็น stand ออกมาก็มี (ไม่รู้เรียกว่าไร)
ผมเจออีกอย่างที่ชอบ คือ เคสมือถือ แบบแกะสลักดิจิตอล 
ของพวกนี้ถ้าเดินในตลาดทั่วไปคงยากที่จะเจอครับ 
เสียดายลืมถ่ายรูปมาให้ชม แฮะๆ

เสื้อลายนี้ ฮิตมากๆ ที่หัวหิน



ตอนนี้เราก็อิ่มหนำกับของกิน และ ช๊อปกันไปพอสมควรแล้ว 

จึงมุ่งหน้ากลับที่พัก และ กะว่าจะแช่อ่างจากุซซี่ส่วนตัว

ในรอบค่ำอีก เพื่อเป็นการผ่อนคลายร่างกายที่ใช้มาทั้งวัน

@20:00 P.M.
High life with Jacuzzi over the roof, 4th floor 
at Rest Detail Hotel


แต่น แต่น แต๊น!!

ช่วงกลางคืนของระเบียงภายในห้อง Deluxe 
ของ Rest Detail Hotel ยามค่ำคืนครับ

A perfect drinking place

ขนมเพียบครับ แช่น้ำไป ดื่มไป เคี้ยวขนมไป มีความสุขสุดยอดครับ

เมื่อมองเข้าไปในห้อง จาก ระเบียง
ลองเปิดวีดีโอนี้ดูครับ บรรยากาศจริงสั้นๆภายในห้อง
ผมทดสอบเปิดเพลง คลอไปด้วยระหว่างแช่จากุซซี่

ความจริงแล้วในยามค่ำ ตรงส่วนของผับ/เลาจน์ของทางโรงแรม
ก็จะมีเพลงแจ๊สเพราะๆเปิด เมื่อเราแช่น้ำอยู่ก็จะได้ยินเพลงด้วยครับ



เมื่อเปิดไฟ และ เปิดน้ำวนครับ

ขอจบ ตอนที่ 3 ไว้เพียงเท่านี้จ้า >___<

ไปแช่อ่างจากุซซี่นวดไหล่ ฟัังเพลงก่อนล่ะ

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

[Hotel Review] ชมวิว แช่อ่างจากุซซี่ ให้ชุ่มปอด @หัวหิน (ตอนที่ 2) + (แถม Mini Review โรงแรม Rest Detail) กับที่เที่ยวหลากหลายในหัวหิน


สัมผัสบรรยากาศที่ตัดสมองคุณจากโลกภายนอก

Rest Detail Huahin Hotel :)

บรรยากาศบริเวณชายหาดของโรมแรม Rest Detail
หลังจากที่เราได้อิ่มหนำกับข้าวกลางวันแสนอร่อย
ก็ถึงเวลา check in ที่พักแล้วล่ะ

โรงแรมเรสท์ ดีเทล (Rest Detail Hotel) 
ตั้งอยู่ที่ อำเภอหัวหิน ซอย 19 
ขับตรงเข้ามาในซอยซัก 500 เมตรจนสุดซอย
จะเจอแยกให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นตรงมาก็จะเจอกับตึกแบบนี้ครับ

ขอบคุณภาพจากอากู๋

เมื่อเดินถึงหน้าห้อง เราก็จะเจอสัญลักษณ์นี้แปะอยู่ที่ทุกห้อง
เมื่อมองดีๆ มันสามารถเปลี่ยนป้ายได้ เช่น
Resting in progress คือ อย่ารบกวนพักผ่อนอยู่นะ
ง่ายต่อการใช้มาก :o

ตอนนี้เหนื่อยมาก ขึ้นห้องกันเลยดีกว่า อยากนอนแช่น้ำเต็มที
ห้องที่เราเลือกพักกันนั้นคือห้องแบบ Deluxe 
หรือแปลตรงๆว่าห้องสุดหรูนั่นเอง ไม่รอช้ามาดูภาพบรรยากาศภายในห้องกันเลยดีกว่า :)

เตียงนอนหันหัวติดกับโต๊ะนั่งอ่านหนังสือ
ห้องน้ำใหญ่ดีครับ

ไฮไลท์ของห้องนี้มันอยู่ที่นี่! อ่างจากุซซี่ส่วนตัวของห้องเรา!!
มาพร้อมกันโซฟากลมริมระเบียง ข้างๆมี switch เปิดปิดน้ำวน กับ ไฟ
และยังมีราวตากผ้าไว้แขวนเสื้อเปียกอีกด้วย บรรยากาศดีสุดๆไปเลย

อันนี้เป็นมุมมองแบบ panorama
แช่จากุซซี่ไป มองทัศนียภาพของหัวหินไป
สุดยอดจริงๆ
เมื่อมองออกไปจากเตียงนอน

สนนราคาห้องนี้อยู่แค่เพียง 22,000 บาทต่อคืน (ในราคาปกติ)

แต่เมื่อจองกับ Agoda จะตกที่ประมาณ 7,000-8,000 บาท/ คืน

แต่อาจถูกกว่านั้นขึ้นอยู่กับโปรช่วงนั้น



ทำไมมันถึงแพงขนาดนี้?



อาจเป็นเพราะรายละเอียดเล็กๆน้อยๆละมั้งครับ ในความคิดผม
ผมคิดว่าเค้าพยายามใส่ใจ เรื่องเล็กๆ มากมายในห้อง 

เด๋วจะสาธยายต่อครับว่ามีอะไรบ้าง ไอ้ detail เนี่ย



เริ่มที่ตู้เสื้อผ้าแล้วกัน ในนี้ประกอบไปด้วยของที่บางโรงแรม
อาจไม่มี เช่น เสื้อใส่คลุมหลังอาบน้ำ ไฟฉาย นกหวีด
ถุงซักแห้ง รองเท้าแตะ ตู้เซฟ ที่ผมตกใจสุดคงเป็นนกหวีด
ก็ดูใส่ใจลูกค้าดีครับ



อ่างน้ำ ซึ่งมีเกลือ ผสมยูคาลิปตัส กับ ลาเวอนเดอร์
ให้โรยหอมๆ กันด้วยครับ

แม้แต่ที่นั่งแบบ stool ก็ยังมีครับ ไว้นั่งแต่งหน้า แต่งตัว
จะสังเกตได้ว่า ห้องอาบน้ำฝักบัว กับห้องส้วมแยกกันมีประตูปิด
ชอบใจมากครับ เป็นสัดส่วนดี

มุมอ่างล่างหน้า ด้านซ้ายมีไดร์เป่าผมให้
ภายในกล่องไม้ นั้น มีที่ตะไบเล็บ สำลี ทิชชู่ ให้ด้วย

ถัดจากห้องน้ำมา ก็มาดูพื้นที่ของการพักผ่อนกันบ้าง
มาดูโต๊ะอ่านหนังสือกันก่อนครับ
ถ้าสังเกตดีๆในภาพด้านล่าง เค้าจะมีจุดน้ำมันหอมระเหย
เป็นโคมไฟไว้ใต้โต๊ะด้วย

บนโต๊ะมีเอกสารต่างๆของโรงแรม ซึ่งเตรียมไว้ให้อ่าน
ที่นี่มีฉายาว่าโรงแรม ลิง จ้า
คำอธิบายอะไรน้า Dear Music Lover....

ร้องอ่๋อ เมื่ออ่านจบ นี่ก็คือ
คู่มือการใช้ลำโพง iPhone/iPad นั่นเองของ JBL
คู่มือนั้นถูกลำโพงวางทับไว้อยู่ ดังที่เห็นในรูป
เสียงใช้ได้เลยครับ ถูกใจสำหรับคนชอบฟังเพลงแน่นอน

โถงเพดานของห้องที่มีลวดลาย พร้อมกับไฟสี yellow warm ซ่อนไว้
จริงๆมีหลอด led สีขาวอีกหลายจุดเลยครับ ในห้องส่องสว่างมาก 

กระจกสูง 200 cm. ได้ ส่องทั้งตัวได้แน่นอนถ้าไม่ใช่ เหยาหมิง

ข้างๆกันก็มีเก้าอี้นอนยาวด้วย
ถึงตอนนี้ผมขอลงไปแช่น้ำก่อนละ 
เพราะทั้งร้อน ทังเหนื่อย จากการเดินทางเมื่อช่วงเช้า ^^"



สบายสุดๆไปเลย >____<!!

หลังจากแช่น้ำเสร็จเราก็นอนยาวจนถึงเย็นเลย


บล๊อคต่อไป

คือการดินเนอร์ในหัวหิน ซึ่งประทับใจมากๆ
ณ ตลาด จั๊กจั่น Cicada

To be continue...
ตอนต่อ คลิ๊กเลยจ้า

[Hotel Review] ชมวิว แช่อ่างจากุซซี่ ให้ชุ่มปอด @หัวหิน (ตอนที่ 1) + (แถม Mini Review โรงแรม Rest Detail) กับที่เที่ยวหลากหลายในหัวหิน อาทิ Swiss Sheep Farm, พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน, บ้านถั่วเย็น

คืนแรก..

Rest Detail HuaHin :D


เอามายั่วที่ต้นเรื่องก่อน นี่คือบรรยากาศสระน้ำ
ของโรงแรม Rest Detail ที่เรากำลังมุ่งหน้าไปจ้า

ชมวิวทะเล ฟังเพลง แช่อ่างจากุซซี่ 
เที่ยวฟาร์มแกะ ชมประวัติศาสตร์ เดินตลาด ทานซีฟุ๊ด
นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆที่คุณสามารถทำได้ เมื่ออยู่ที่หัวหิน ถิ่นมีหอย..


ต่อไปผมจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ผมได้ไปทริปหัวหินมา อาจจะเป็นแค่ทริปสั้นๆแต่ผมรู้สึกว่า มันช่างเป็นที่ๆทำให้ผมหายเครียดได้เป็นอย่างดี และเป็นที่ๆ ทุกๆคนที่รักทะเลและความโรแมนติกสมควรจะมาสักครั้ง (หรือหลายครั้ง) ในชีวิต ไม่ว่าคุณจะเป็น Foreigner หรือคนไทย ผมก็คิดว่า ที่นี่แหละ มีเสน่ห์สุดๆ เป็นทะเลที่ไม่แพ้ชาติในใดโลก.........เกริ่นนำซะอลังการ 5555 ถ้าเขียนไม่สนุกนี่คงจบกัน OK!

เริ่มเที่ยวกันเลยดีกว่าจ้า


เริ่มจาก หมวดที่เที่ยว เครดิตจาก Honey ของผมที่อุตส่าห์เขียนมาให้ ขอบคุณมากๆเลยคร้าบ :)


หมวดที่เที่ยว


Swiss Sheep Farm 

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

ชิเคด้า มาร์เกต

ตลาดโต้รุ่งหัวหิน



หมวดร้านอาหาร

บ้านถั่วเย็น

ห้องอาหารเกลียวคลื่น

รถไฟซีฟู๊ด (ตลาดโต้รุ่ง)



หมวดที่พัก

Rest detail

บ้านสุขสามัคคี



6:30 A.M.
"Life is too short, let's wake up early and drive to destination"


ออกเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่เช้าตรู่จาก กทม. 




ไปป้อนอาหารให้น้องแกะ
เพราะเป็นคนใจบุญ คาดว่าน้องแกะที่ฟาร์มก็น่าจะหิวเช่นกัน
ประมาณ 9:30 ที่นี่ คนก็เยอะแล้วแฮะ

Swiss Sheep Farm
สวยเพราะติดเขานี่แหละผมว่า

ที่ Swiss Sheep Farm นั้นหลักๆกิจกรรมก็คือดูสัตว์กับถ่ายรูปครับ
ที่นี่มีวิวให้โพสถ่ายรูปอยู่มากมาย เช่น แกะ กังหัน ม้าแคระ ทรานสฟอร์เมอร์ ยัน มินิคูเปอร์ แม่กุญแจหัวใจ วันฮัลโลวีน
ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันได้ไง (ที่นี่ดูจะมี prop ถ่ายรูปที่เหมาะสำหรับคนบ้าถ่ายรูป แต่ต้องเข้าใจด้วยนะ ว่ามันร้อนมากกกกก)
แต่มันก็มาอยู่ที่เดียวกันครับ ค่าเข้าคนละ 50 บาทจ้า
ใครเข้าไปเก็บหางตั๋วไว้ เอาไปยื่นแลกหญ้าให้น้องแกะ



ช่วงที่ผมไป เพิ่งผ่านเทศกาลฮัลโลวีนมาหมาดๆ จึงมี prop
หลงเหลือให้ถ่ายรูปอยู่ปะปรายครับ







ให้อาหารแกะ เดินถ่ายรูปได้ประมาณ 30-40 นาที
ก็หมดที่เดินแล้วครับอาจเป็นเพราะผมขี้ร้อน
เลยพยายามเดินไวๆ แต่ก็พยายามถ่ายรุปแฟนให้เยอะๆนะ
 ( เอาใจเค้าหน่อย วันนี้นั่งรถเค้า ไม่ได้ใช้รถเรา ไม่ต้องขับ เราสบาย 555
แฟนผมน่ารักที่สุในโลกเลย ^^ )

ที่นี่ตอนขาออกจะมีห้อง souvenir คอยดักเงินท่านอยู่
แต่ไม่ได้เงินผมหรอกครับ ไม่สน..


เดี๋ยวนะ ไหนบอกไม่สนใจ 555
จบที่แรก Swiss Sheep Farm จุดมุ่งหมายต่อไป ของเราก่อนไปที่โรงแรมนั่นก็คือ 

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน 
หรือ เรียกอีกชื่อว่า 
พระราชวังแห่งความรักและความหวัง

มาชมพระราชวัง และ ย้อนหลัง ย่ำประวัติศาสตร์ด้วยกันครับ


บรรยากาศ ร่มรื่นย์ สวยงาม และ สงบสุขจริงๆครับ
ใครอยากรู้ว่าทำไม ลองไปสัมผัสประวัติศาสตร์ของที่นี่ดู หรือ ลองค้นคว้าดูนะครับ
 ว่าทำไมถึงชื่อนี้ เท่าที่ผมทราบมา คือ

วังนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ตำบลห้วยทรายเหนือ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี 
สืบด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมุ่งหวังว่าจะมีพระราชโอรส 
อันจึงเป็นที่มาของวังที่สวยสง่าแห่งนี้

เรือยสรงน้ำ จากที่ผมอ่านป้ายที่เขียนไว้ให้นักท่องเที่ยวอ่าน
เสด็จพ่อ ร.6 จะทรงลงมาสรงน้ำที่ตรงนี้ในช่วงเย็นใน ชุดห่มผ้าชิ้นสีแดง
และพับแขนขึ้น จากที่ข้าราชบริพารได้ให้ข้อมูลไว้สืบต่อกันมา

สีเขียวของใบไม้ ทำให้ที่นี่เย็นจริงๆ


ถ้าสังเกตสถาปัตยกรรมของที่นี่ดีๆ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน 
นั้นคล้ายกับสถาปัตยกรรมของทางยุโรป นั่นก็เพราะ



พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีรับสั่งให้ประยุกต์การสร้างวังให้เหมาะกับไทย 
ดังที่จะเห็นได้ว่า เรือนนั้นยกสูงทั้งหมด และ หลังคาทรงปั้นหยาสีปูนแดง ตัดกับผนังสีฟ้า
 และ ทางเดินระเบียงต่างๆ เป็นสีเหลืองนวลให้ความรุ้สึก สบาย และ หรูหรา สวยงามจริงๆครับ

ที่นี่คนที่มามีทั้งฝรั่งและคนไทยครับ นักท่องเที่ยวเข้ามากันไม่ขาดสาย ห้องต่างๆในพระราชวังนั้น เข้าได้บางห้อง บางห้องสงวนไว้ และ บางจุดที่ทรุดโทรม เพราะอายุของอาคาร จึงไม่สามารถเดินเข้าไปได้ แต่ แค่นี้ก็ทำให้ผมทึ่งกับคนสมัยโบราณ ที่ไม่มีแม้แต่แอร์ คอมพิวเตอร์ หรือ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีแต่ธรรมชาติ กับ ความรู้ล้วนๆ ยังสามารถทำให้ที่นี่ สวยงามได้ถึงเพียงนี้ :)



อ่อ ตรงบริเวณปลายทางออกของพระราชวังนั้น มีร้านขายขนม เครื่องดื่ม ที่จัดไว้อย่างเรียบร้อย 
ภายในใกล้กับห้องนิทรรศการด้วยนะครับ ผมกระหายน้ำจึงต้องซื้อ น้ำมะขามซะหน่อย 
สดชื่นมากๆ เปรี้ยวๆหวาน ใช้ได้เลยทีเดียว






จุดเช่าจักรยานก็มีครับ ทางเดินเข้ามา มีช่องทางแยก 
สำหรับผู้ขี่จักรยาน กับ คนเดิน ดีแฮะ



บรรยากาศในห้องนิทรรศการครับ


ที่นี่เราสามารถขึ้นไปชมบนเรือนของวังได้ด้วยนะครับ

แต่ห้ามถ่ายรูปบนเรือนเด็ดขาด และ ต้องแต่งตัวเรียบร้อย มิดชิด

ขนาดผมเป็นผู้ชาย ใส่กางเกง 3 ส่วนมา ยังโดนทักให้ดึงลงมาคลุมหัวเข้าเลยครับ

เอาเป็นว่า ผมแนะนำแบบสุดๆเลยนะ สำหรับคนที่อยากค้าหารอยประวัติศาสตร์ของพระมหากษัตริย์ของไทยเรา ที่นี่มีอยู่อย่างครบถ้วนในรัชสมัยของ ร.6

การที่ผมได้เดินบนพื้นไม้สัก ห้องที่พระมหากษัตริย์ ทรงเสวย ทางงาน ทรงแต่งองค์
แค่นี้ก็ทำให้ขนผมรู้สึกขนลุก กับ ความสวยงามของบ้านเมืองเราครั้งสมัยก่อน

ผมขอจบการเขียนเที่ยวชม พระราชวัง ไว้เพียงเท่านี้แล้วกัน

เพราะ หิว (อีกแล้ว)

ต่อไป!!

ห้ามพลาด!!

"บ้านถั่วเย็น"

ร้านอาหารเล็กๆในหัวหิน ที่น่ารัก และ อร่อย ทุกเมนูล้วนแต่ใส่ถั่ว
และยังมีของหวานคูลๆ แบบน้ำถั่วปั่น เช่น น้ำถั่วแดงปั่น 


ถั่วแดงปั่น แปลกดีครับ

แม้แต่ข้าวก็มีถั่ว :O
น้ำถั่วแดงปั่นราคาประมาณ 60 บาท (ลืมราคา)
ข้าวกระเพราะ ไก่ชิ้น 55 บาท

ถึงตอนนี้ก็ประมาณเที่ยงกว่าๆ อิ่มท้องแล้ว เริ่มเหนื่อยแล้ว
กับการเที่ยวแต่เช้า เอาล่ะ ต่อไปนี้คือไฮไลท์

มุ่งหน้าสู่โรงแรมที่เราจะได้ชุ่มฉ่ำ แช่จากุซซี่กันนั่นก็คือ

REST DETAIL HUAHIN HOTEL


แต่ง่วงละ ขอมาต่อพรุ่งนี้นะ...

จบ Part 1 จ้า  (ดื้อๆ) 555

^^

ปล. รูปถ้าเอาไปใช้ให้เครดิตด้วยน้า

ตอนต่อไปคลิ๊กเลยจ้า

http://beautifulsideofme.blogspot.com/2013/11/review-hotel-2-mini-review-rest-detail.html